

นิตรสาร さくら ฉบับที่ 8

นิตยสาร さくらStyle
วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564
สวัสดีพี่น้องชาวไทย ยินดีที่ได้รู้จักกับนิตยสาร さくらStyle วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ฉบับที่ 8
นิตยสารฉบับที่ 8 นี้ เราจะพาไปดู
* ことわざ慣用句 สุภาษิต สำนวน EP.6
* Mind Map ศัพท์ วัน เวลา และฤดูกาล [2]
* ตะลุยไวยากรณ์และคำศัพท์ EP.6 “~ ができる/~ことができる”
* สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น EP.5 Bonsai (บอนไซ)
* โจทย์ 500 N4 – N5 EP.4
* ภาษาญี่ปุ่นวันละ 20 คำ "อักษร ค"
* 漢字 ไม่ยากอย่างที่คิด 341 – 350
* เกร็ดความรู้ญี่ปุ่น “คุณรู้หรือไม่!! เปรียบเทียบการทำงาน บ.ไทย กับ บ.ญี่ปุ่นในไทย”
* ใคร ๆ ก็เข้าครัวไปกับ I’m JAVDEE “คุกกี้สอดไส้”
ことわざ慣用句 สุภาษิต สำนวน Ep.6 白い目で見る (มองดูด้วยตาขาว)
{ความหมาย}
มองคนอื่นด้วยสายตาเย็นชา, เต็มไปด้วยความรู้สึกสงสัยและเจตนาร้าย
เป็นความรู้สึกที่มองด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม
Mind Map ศัพท์ญี่ปุ่น ตอนที่ 5 วัน เวลา และฤดูกาล (2)
รู้หรือไม่!!
ดอกซากุระถือได้ว่าเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากชาวญี่ป่นนั้นมีวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับดอกซากุระเป็นอย่างมากนับตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจะเห็นได้จากงานเขียนและภาพวาดต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ที่มักจะมีการกล่าวถึงความงามของดอกซากุระเป็นองค์ประกอบในช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะเป็นช่วงฤดูชมดอกไม้ของประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีประเพณีที่เรียกว่า “การดูดอกซากุระบาน” ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือ お花見ohanami ซึ้งประเพณีดังกล่าวนี้เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในช่วงที่ดอกซากุระบานนั้น ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนมากมักจะจัดอาหารกล่องและเหล้า นำไปเลี้ยงฉลองสังสรรค์ดื่มกินกันใต้ต้นซากุระ อีกทั้งยังนิยมเดินเล่นกันใต้ต้นซากุระ ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่มีชื่อเลี้ยงอีกด้วย
กล่าวกันว่าดอกซากุระเป็นสัญลักษณ์ของช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่สำหรับสัญลักษณ์ในช่วงฤดูใบไม้ร่างแล้ว ก็คือ “ใบไม้สีแดงหรือใบเมเปิลในช่วงฤดูใบไม้ใบร่วง” หรือที่เรียกว่า 紅葉kouyou นั่นเอง ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนเป็นสีแดงหรือสีเหลือง โดยในช่วงฤดูกาลดังกล่าวนี้จะมีประเพณี “การไปดูใบเมเปิล” เปลี่ยนสี หรือที่เรียกว่า 紅葉狩りmomijigari
ตะลุยไวยากรณ์และคำศัพท์
สำหรับสอบวัดระดับ ภาษาญี่ปุ่น N4
ตะลุยไวยากรณ์และคำศัพท์ ตอน ~ ができる/~ことができる
ความหมาย :: สามารถ (ทำ) ...ได้
อธิบาย :: เป็นสำนวนที่ใช้แสดงความสามารถหรือความเป็นไปได้ กล่าวคือ ใช้แสดงความสามารถในเชิงทักษะ หรือความสามารถทางกายที่สามารถกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ นอกจากนี้ยังใช้แสดงถึงความเป็นไปได้ที่จะกระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งภายใต้ข้อกำหนด เงื่อนไข หรือสภาพการณ์นั้น ๆ
สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น (ฉบับทำใหม่) Ep.5 Bonsai (บอนไซ)
. . . . . 盆栽とは、盆栽用に小さく形よく育てた植物を鉢に植え、石や答などを使って自然の風景を模して、ミニチュアとして作り上げたものです。代表的なものは、松、梅、さつきなどで、長い年月(10年上)をかけて根切りをしたり、樹形を整え、盆栽用に育てます。マンションのベランダや自宅の庭などにたくさんの鉢を並べて育てている人も少なくありません。
. . . . . บอนไซ (BONSAI) คือ สิ่งจําลองทัศนียภาพแบบธรรมชาติขนาดเล็ก ๆ ด้วย ต้นไม้แคระที่เลี้ยงดูอย่างดีให้มีรูปร่างสวยงามน่ารักและมีการจัดหินหรือหญ้ามอสใส่ ต้นไม้ที่นิยมจัดเป็นบอนไซ ได้แก่ สน บ๊วย อาซาเลีย เป็นต้น การเลี้ยงบอนไซใช้ เวลานาน (นานกว่า 1 ทศวรรษ) เพื่อจัดรูปร่างโดยการตกแต่งรากหรือกิ่ง หลาย คนจะเลี้ยงบอนไซกระถางโดยวางเรียงไว้ตามระเบียงแมนชั่นหรือในสวน
โจทย์ 500 N4 – N5 EP.4
สัปดาห์ที่ 1 วันที่ 4 (EP4.)
* เมื่อจบวันที่ 6 ให้จดบันทึก จำนวนข้อที่ตอบถูก
* ถ้าทำส่วนไหนได้น้อย ให้ลองทำใหม่อีกครั้ง แล้วค่อยเริ่มทำโจทย์วันที่ 7
* วันที่ 7 เป็นการทบทวนเมื่อทำเสร็จแล้ว ให้จดบันทึก จำนวนข้อที่ตอบถูกเพื่อตรวจสอบผลการเรียนรู้
ตัวอักษร ครั้งที่ 1 – 3 . . . . /30ข้อ (วันที่ 1 – 6) . . . . /12ข้อ (วันที่ 7 ทบทวน)
คำศัพท์ ครั้งที่ 1 – 3 . . . . /30ข้อ (วันที่ 1 – 6) . . . . /12ข้อ (วันที่ 7 ทบทวน)
ไวยากรณ์ ครั้งที่ 1 – 3 . . . . /30ข้อ (วันที่ 1 – 6) . . . . /12ข้อ (วันที่ 7 ทบทวน)
--------
โจทย์กับคำตอบจะแยกกันนะคะ
โจทย์ EP4. อ่านรายละเอียด
คำตอบโจทย์ EP4. อ่านรายละเอียด
โจทย์ 500 N4 – N5 ทุก EP. อ่านรายละเอียด
ภาษาญี่ปุ่นวันละ 20 คำ "อักษร ค"
คุม かんりする 『管理する』
คุ้มครอง ほごする『保護する』
คุย (พูด) しゃべる『喋る』
...คู่ (ลักษณนาม) …そく 『足』
คู่ (เลข) ぐうすう『偶数』
คู่แข่ง きょうそうあいて『競争相手』
คู่บ่าวสาว しんろうしんぷ『新郎新婦』
คู่มือ てびき、マニュアル『手引き』
คู่รัก こいびと『恋人』
คู่สมรส はいぐうしゃ『配偶者』
--------------------------------------------------------------
คู่หมั้น こんやくしゃ『婚約者』
คูณ かける『掛ける』
เค้ก ケーキ
เค็ม しおからい『塩辛い』
เคมี かがく『科学』
เคมีภัณฑ์ かがくせいひん『化学製品』
เคย... ..したことがある
เคยตัว くせになる『癖になる』
เคร่งขรึม まじめ(な)『真面目(な)』
เคร่งครัด げんかく(な)『厳格(な)』
漢字 ไม่ยากอย่างที่คิด
อักษรคันจิคำที่ 341 - 345
อักษรคันจิ คำที่ 341 真
ความหมาย : จริง ความจริง แท้ แท้จริง จริงแท้ จริงใจ
คำอ่าน : シン、ま、まこと
หมวดอักษร : 目 ดวงตา
อักษรคันจิ คำที่ 342 深
ความหมาย : ร้านแรง ลึก ลึกซึ้ง สีเข็ม ดึก ลึกซึ้งขึ้น เวลา ล่วงเลยไปมากขึ้น ความรู้สึกซึ้งขึ้น ความเข้าใจลึกซึ้ง
คำอ่าน : シン、ふかい、ふかまる
หมวดอักษร : 氵さんすい น้ำ
อักษรคันจิ คำที่ 343 進
ความหมาย : คืบหน้า เดินหน้า ก้าวต่อไป รุดหน้า ขยับไป ข้างหน้า ก้าวหน้า แสดงเดินทาง เลื่อนขั้น
คำอ่าน : シン、すすむ、すすめる
หมวดอักษร : 辶しんにょうนั่งเรือ, เดินทางไป
อักษรคันจิ คำที่ 344 世
ความหมาย : โลก รุ่น สมัย หล้า โลกย์ สังคม ช่วงสมัย รัชกาล
คำอ่าน : セ、よ
หมวดอักษร : 一หนึ่ง
อักษรคันจิ คำที่ 345 整
ความหมาย : จัดการให้เข้าที่ เป็นระเบียบ มีอยู่ครบถ้วน จัดให้เรียบร้อย จัดเตรียมให้ครบ
คำอ่าน : セイ、ととのう、ととのえる
หมวดอักษร : 攵ほくづくりกระทำ
อักษรคันจิคำที่ 346 - 350
อักษรคันจิ คำที่ 346 昔
ความหมาย : สมัยก่อน นานมาแล้ว เมื่อก่อน ในอดีต สมัยโบราณ ดึกดำบรรพ์
คำอ่าน : セキ、シャク、むかし
หมวดอักษร : 日 ตะวัน
อักษรคันจิ คำที่ 347 全
ความหมาย : ทั้งสิ้น ทั้งหมด บรรลุ เสร็จสิ้น หมดอายุขัย ถึงที่สุด โดยสิ้นเชิง อย่างแท้จริง
คำอ่าน : ゼイ、まっとう、まったく
หมวดอักษร : 人 หลังคา
อักษรคันจิ คำที่ 348 相
ความหมาย : ร่วมกัน แชร์กัน ใช้ร่วมกัน ลักษณะ มุมมอง ขั้นตอน สีหน้า ท่าทาง แต่ละ กันและกัน ครอบครอง
คำอ่าน : ソウ、ショウ、あい
หมวดอักษร : 目 ดวงตา
อักษรคันจิ คำที่ 349 送
ความหมาย : ส่ง นำส่ง ปล่อย ส่งลงเรือ ไปส่ง โอน แพร่
คำอ่าน : ソウ、おく、おくり
หมวดอักษร : 辶しんにょう นั่งเรือ, เดินทางไป
อักษรคันจิ คำที่ 350 想
ความหมาย : จินตนาการ จิตภาพ คาดการณ์ คาดการณ์ จำได้ ระลึกได้ ความคิดคำนึง
คำอ่าน : ソウ、ソ、おもい
หมวดอักษร : 心 หัวใจ
漢字 ไม่ยากอย่างที่คิด อ่านรายละเอียด
เกร็ดความรู้ญี่ปุ่น “คุณรู้หรือไม่!! เปรียบเทียบการทำงาน บ.ไทย กับ บ.ญี่ปุ่นในไทย”
. . . . . บริษัทไทย VS บริษัทญี่ปุ่น แบบไหนดีกว่ากันนะ? เชื่อว่าหลายๆท่านที่เรียนจบทางด้านภาษาญี่ปุ่นหรือต้องการทำงานบริษัทญี่ปุ่นต้องมีลังเลกันบ้าง บทความนี้อาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยว่าเนื้อหาการเปรียบเทียบตามที่จะกล่าวต่อไปนี้ หลายอย่างใช้ข้อมูลที่เป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้ว
. . . . . แต่หลายอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่จับต้องไม่ได้ (เช่นวัฒนธรรมองค์กร) ก็จะเน้นเขียนตามประสบการณ์ของนักเขียนโดยตรงเป็นหลัก (รวมถึงบุคคลใกล้ตัวของเราด้วย) หากประสบการณ์ที่คุณเจอไม่ตรงกับเราอย่างไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
วัฒนธรรมองค์กร
บริษัทไทย = ความแตกต่างทางสังคมสูงมาก
. . . . . วัฒนธรรมองค์กรไทยจะมีสิ่งหนึ่งค่ะที่ต่างกับญี่ปุ่นมาก คือความยืดหยุ่นยังไงก็ได้ ประชุม 9 โมงแต่กว่าจะเข้าเนื้อหาจริงอาจจะ 9 โมงครึ่งเพื่อรอเพื่อนรวมงานเป็นต้น ตำแหน่งการรับผิดชอบงานของไทยจะชัดเจน ตรง และไม่ซับซ้อน แต่มักไม่แยกเรื่องงานกับส่วนตัวออกจากกันเสียเท่าไร ซึ่งนี้ก็นับว่าเป็นข้อเสียก็ได้นะคะที่อาจส่งผลกับการทำงาน ส่วนวัฒธรรมปลีกย่อยอื่นๆขอแยกบริษัทไทยเป็น2ประเภทเท่าที่ได้รับประสบการณ์มาแล้วกันนะคะ
1. บริษัทไทยแบบเช้าชามเย็นชาม
. . . . . อาจจะจั่วหัวข้อแรงไปสักนิด แต่นี่คือเรื่องจริงค่ะที่ไม่ได้มีแค่ในระบบข้าราชการ แต่มีในเอกชนบ้างบางแห่งโดยเฉพาะบริษัทเล็กๆที่มักเจอ คนเดิมที่อยู่อาจไม่ได้ทำงานดีขนาดนั้นแต่เพียงทำตามหน้าที่ ขาดแรงกระตุ้นในการทำงานทำให้ไม่มีความกระตือรือร้น แต่อยู่ได้เพราะเงินเดือนมั่นคงแล้วเขาเองไม่ได้ทำผิดร้ายแรงอะไรที่ทำให้บริษัทพิจารณาไล่ออก คนขยันก็ทำงานแทบตายโดนเอาเปรียบจากกลุ่มนี้ เชื่อว่าแบบนี้หลายท่านน่าจะเคยพบเจอกันมาเองบ้าง
2. บริษัทไทยแบบศรีทนได้ ทนแบกรับทุกอย่าง
. . . . . ในการทำงานบริษัทไทยบางแห่งที่เน้นใช้คนกันเต็มที่ หน้าที่ส่วนนั้นไม่หนักกายในการใช้แรงงาน ก็หนักสมองในการคิดบริหารงาน ซึ่งบริษัทแบบนี้มักมีเรื่องของโบนัสหรือคอมมิชชั่นเป็นตัวกระตุ้นพนักงานให้กัดฟันสู้เพื่อเงินเดือนค่ะ แล้วเพราะเหตุนี้นี่แหละคนที่ทำงานองค์กรไทยที่มีลักษณะแบบนี้มักไม่ได้เหนื่อยงานแค่เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเหนื่อยกับคนหรือสังคมของบริษัทที่แก่งแย่งชิงดีกันด้วย ซึ่งจุดนี้แหละที่ทำให้คนไทยเป็นทั้งเครียดสะสมและโรคซึมเศร้ามามากแล้วค่ะ
บริษัทญี่ปุ่น = บริษัทคือครอบครัว
. . . . . สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแล้วการดูแลของเขาจะไม่ได้มองแค่ว่าคุณคือพนักงานอย่างเดียว แต่คุณคือหนึ่งในองค์กรที่เหมือนบ้านหลังที่2ด้วย แต่ต้องบอกก่อนนะคะว่าครอบครัวแบบญี่ปุ่นเนี่ยเป็นครอบครัวแสนเหนื่อยแสนกดดัน คุณพ่อคุณแม่คาดหวังให้ลูกเรียนได้ท็อปกันทุกคน กฎระเบียบที่มีก็เยอะมาก และมักจะเคร่งเครียดกว่าบริษัทไทย เพราะไม่ใช่แค่ว่าเขาจะมองคุณเป็นครอบครัวแค่เพียงอย่างเดียว เขายังคอยมองการทำงานของคุณด้วย ว่าเติบโตแค่ไหน เน้นให้พยายามเพิ่มๆขึ้นไปเรื่อยๆ ซึ่งสิ่งที่คุณทำอยู่อาจดีแล้ว แต่คุณห้ามหยุดพัฒนาและต้องพยายามให้มันดียิ่งขึ้นไป ซึ่งจุดนี้แหละค่ะที่ทำให้คนไทยหลายท่านที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นเกิดภาวะเครียดและซึมเศร้า เพราะคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ดีพอ (ก็เป็นปัญหาที่ได้ยินบ่อยๆ แบบที่สังคมญี่ปุ่นและเหล่ามนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นเผชิญอยู่นั่นเอง) สรุปว่าถึงจะ "เหมือนครอบครัว" แต่ก็เครียดอยู่ดีค่ะ
. . . . . ส่วนระบบการทำงานของบริษัทญี่ปุ่นขอบอกเลยค่ะว่าซับซ้อนมาก และต้องยึดขั้นตอนเป๊ะๆ ต้องรอคนนั้นเซ็นเอกสาร คนนี้อนุมัติ คนโน้นพิจารณา รอระดมสมองกับทีมอย่างเป็นทางการ รอการแก้ไขครั้งที่ 1 2 3 … แต่ทั้งนี้แม้ขั้นตอนงานจะซับซ้อน แต่ก็มีขั้นตอนและเดดไลน์งานที่ชัดเจนมากเช่นกัน เป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะทำให้การทำงานบริษัทญี่ปุ่นนั้นเคร่งแล้วเครียดด้วยค่ะ การทำงานแบบนี้สำหรับบริษัทอื่นคู่ค้าที่ต้องติดต่อร่วมกันทำงานแล้วต้องรับเอกสารงานก่อนเดตไลน์งานจริงอาจมีปัญหาในการทำงานร่วมด้วย เพราะเขายึดวันที่ตกลงกันเป็นหลักเลย
หัวหน้างาน
บริษัทไทย : หัวหน้างานร้อยพ่อพันแม่
. . . . . หัวหน้างานในบริษัทไทยจะมีตำแหน่งงานชัดเจนค่ะ คนนี้คือหัวหน้าแผนก นี่คือรองหัวหน้าแผนก ที่เหลือคือพนักงานทั่วไป ทำให้ไม่มีความซับซ้อนในการรอผู้มีอำนาจตัดสินใจมากนัก แต่ลักษณะหัวหน้าบริษัทไทยหาคำจำกัดความไม่ได้เลยค่ะ เพราะหัวหน้าแบบไทยเนี่ยแต่ละคนแตกต่างกันเยอะจริงๆ แต่จะขอแบ่งเป็น 2 ประเภทให้เข้าใจง่ายๆ
1.หัวหน้างานไทยที่มีภาวะผู้นำที่ดี ; เก่งงานแล้วยังเก่งSoft skillsด้วย
. . . . . เป็นหัวหน้าที่สั่งงานแล้วไม่ได้ปล่อยผ่านรอแค่วันส่งงานหรือรอจับผิด แต่มีภาวะผู้นำในการเข้ามาสอนงาน คุยสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกน้อง เข้าถึงง่ายไม่ดุด่าอย่างเดียว เมื่อมีปัญหาก็เด็ดขาดมากพอที่จะแก้ไขสถานการณ์หรือเข้าไปสอบถามและช่วยลูกน้องแก้ไขปัญหา ใช้เหตุผลกับความรู้สึกควบคู่ตามสถานการณ์และตามเป้าหมายบริษัท จะมีมากมีน้อยอันนี้แล้วแต่ว่าใครโชคดีได้เจ้านายที่ดีไปนะ
2.หัวหน้างานไทยที่เน้นสั่งอย่างเดียว
. . . . . ก็เป็นหัวหน้างานแบบที่อาจไม่ดีสักเท่าไรแน่หากพบเจอ แต่ก็มักจะได้ยินกันบ่อยๆเพราะงั้นก็อยากให้รู้ไว้ว่าคนแบบนี้มีอยู่จริงๆนะ สั่งงานไว้แต่รายละเอียดอย่างไรไปศึกษาเอง บรีฟงานรุนแรงต้องได้เป้าหมายตามที่วางไว้ ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ใช้ความรู้สึกส่วนตัวเลือกที่รักมักที่ชัง หรือเลือกปฏิบัติกับพนักงาน ขณะเข้าไปสัมภาษณ์งานหากเราประเมินสถานการณ์ขณะสัมภาษณ์กับหัวหน้างานได้บ้าง อาจทำให้รอดพ้นปัญหานี้ได้บ้างค่ะ
บริษัทญี่ปุ่น : หัวหน้างานซับซ้อน มากกว่า 2คน
. . . . . งงสิคะ คราวนี้สำหรับคนไทยที่ทำงานบริษัทญี่ปุ่นในไทย หลายคนทำนานแล้วก็ยังไม่ชินรูปแบบผังองค์กรแบบญี่ปุ่นผสมไทย ในความเป็นจริงคุณอาจเป็นลูกน้องใต้บังคับของหัวหน้าแผนกชาวไทย 1ท่าน ที่รองลงมาจากซีเนียร์คนญี่ปุ่น ซึ่งเราต้องคอยปรึกษาตลอด ในทางปฏิบัติจึงคล้ายจะเป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นเดียวกัน
. . . . . สำหรับบริษัทญี่ปุ่นแล้วหากเทียบตำแหน่งงานที่เท่ากันของหัวหน้าชาวไทยและชาวญี่ปุ่น เขาจะยึดชาวญี่ปุ่นเป็นหัวหน้างานค่ะ ซึ่งอำนาจการตัดสินใจใหญ่จริงๆหัวหน้าชาวไทยของเรานั้นก็ต้องรอให้หัวหน้าญี่ปุ่นอีกท่านตัดสินใจเช่นกัน ทำให้การประชุมงานกันในบางหัวข้อบางเรื่องวุ่นวายในหลายๆครั้ง ยังไม่รวมกับวัฒนธรรมองค์กรนั้นด้วย เพราะบางองค์กรหัวหน้างานต้องการงานไอเดียใหม่ๆ แต่ซีเนียร์ผู้ตรวจงานคุณด่านแรกอาจเป็นคนหัวเก่า ทำให้การทำงานสับสนต้องแก้ไขเอาใจหัวหน้ากันไป ซึ่งสังคมการทำงานบริษัทญี่ปุ่นในไทยเอาจริงๆก็ตึงเครียดน้อยกว่าในญี่ปุ่นมากแล้วนะคะ
. . . . . ส่วนหัวหน้างานชาวญี่ปุ่นในบริษัทญี่ปุ่นจะลองสรุปง่ายๆให้เหลือ 2 แบบ ได้แก่แบบแรกเจ้านายสายใจดี เข้าถึงง่าย สุภาพ จริงจังกับงานประมาณนึงแต่เข้าใจลักษณะคนไทย ทำให้ไม่มาจ้ำจี้จำไชกับเรามากนัก กับอีกแบบคือเจ้านายญี่ปุ่นจริงจังแบบสังคมญี่ปุ่น โดยมากมักมาอยู่ที่ไทยไม่นาน หรือมีลักษณะนิสัยที่เนี๊ยบอยู่แล้วตั้งแต่ต้นทำให้การทำงานดูจริงจังแล้วตึงไปเสียทุกอย่าง แบบหลังนี้ถ้าคนไทยไม่ชินอาจต้องปรับตัวกันสักพักเลย เพราะเขาอาจเป็นคนที่ไม่เปิดรับความคิดด้วยทำให้การอธิบายระบบงานใดๆไปลำบากรวมถึงเราเองต้องปรับตัวในการทำงานล่วงหน้าและรอบคอบกับงานให้มากขึ้นด้วย
เงินเดือน
. . . . . สำหรับวุฒิปริญญาตรีทั่วไป ไม่ว่าคุณจะจบที่ไหน เกรดเฉลี่ยเท่าไร สิ่งนั้นอาจเป็นต้นทุนเพียงเล็กน้อยหรือเพียงคอนเนคชั่นในการเริ่มต้นทำงานเท่านั้น เงินเดือนคุณเมื่อเริ่มต้นจะมีประมาณ 15,000บาท พอกันทุกที่ เพราะสิ่งที่อัพเงินเดือนให้มากขึ้นนั้นจะเป็นประสบการณ์ทำงานและอายุงานค่ะ ความแตกต่างของแต่ละคนจะเริ่มเห็นเมื่อทำงานไปซักพัก
เงินเดือนเริ่มต้นบริษัทไทย : 15,000 บาทขึ้นไป
. . . . . เรื่องจริงอันแสนเจ็บปวดว่าด้วยเงินเดือนเริ่มต้นที่รับจริงอยู่ที่ 15,000 บาทแม้คุณจะทำงานใจกลางเมือง ซึ่งเมื่อหักค่าครองชีพแล้วอาจไม่เพียงพอด้วยซ้ำไป คุณอาจเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟบางบริษัทได้ค่ะ บางบริษัทมีแอบให้ความหวังไว้ด้วยว่ายังไม่รวมเบี้ยขยัน+ค่าคอมมิชชั่นนะซึ่งอาจถึง25,000บาท แต่ขอแตะเบรคไว้เลยนะว่าเงินเพิ่มเติมดังกล่าวไม่ได้กันมาง่ายๆแน่ แล้วยังไม่มั่นคงเอาเสียเลย ซึ่งสิ่งนี้อยากจะเตือนเด็กจบใหม่ด้วยนะในการเลือกบริษัททำงาน ให้พิจารณาความสามารถตัวเองและประเมินเงินเดือนไปก่อน อย่าปล่อยให้เขากดเงินเดือนลงเด็ดขาด!
เงินเดือนเริ่มต้นบริษัทญี่ปุ่น : 18,000 บาทขึ้นไป (ไม่รวมค่าภาษา)
สำหรับบริษัทญี่ปุ่นอยากแบ่งเรื่องเงินเดือนเป็น2ประเภท
. . . . . 1. ผู้ที่ยื่นสมัครงานโดยไม่ขอใช้ภาษาญี่ปุ่น อาจมีพื้นฐานภาษาญี่ปุ่นมาก่อนบ้าง หรือมาทำงานบริษัทญี่ปุ่นแบบไม่มีความสามารถภาษาญี่ปุ่นเลย ในส่วนนี้เงินเดือนเริ่มต้นจะอยู่สูงกว่าบริษัทสัญชาติไทยเล็กน้อย ตัวเลขที่เห็นบ่อยอยู่ประมาณ 18,000 บาท แต่โดยส่วนมากหากมีพื้นฐานในการใช้ภาษาญี่ปุ่นมาก่อน จบทางด้านนี้โดยตรง แต่เลือกไม่ยื่นภาษา เงินเดือนจะเริ่มต้นที่ 20,000-22,000 บาทค่ะ
. . . . . 2. ผู้ที่ยื่นสมัครงานโดยเจาะจงตำแหน่งที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น ตั้งแต่ระดับ JLPT N3 ขึ้นไป (ความสามารถการใช้จริงอาจต้องการ JLPT N2) ส่วนนี้จะได้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 25,000-30,000 บาท การใช้งานภาษาญี่ปุ่นก็อาจไม่มากนัก ใช้เพียงภายในบริษัท หรือสานสัมพันธ์เล็กน้อยกับลูกค้าเป็นต้น
. . . . . แต่ทั้งนี้ถ้าตำแหน่งที่คุณไปทำมีความยากแล้วยังใช้ทักษะสูงพอสมควร เงินเดือนเริ่มต้นเรทจะอยู่ที่ 30,000-35,000 บาททันที เช่นเป็นล่ามบริหารฝ่ายการตลาดญี่ปุ่น ล่ามโรงงานผลิตอะไหล่รถยนต์ จะเป็นตำแหน่งต่างๆที่ไม่ใช่แค่รู้ภาษาไว้เฉยๆ แต่ยังต้องใช้จริงจังทุกวันด้วย (พวกล่ามนั่นเอง) เงินเดือนมากความรับผิดชอบงานก็ยิ่งมาก ความจำเป็นที่ต้องใช้ภาษาญี่ปุ่นในทุกวันก็มากตามไปด้วยค่ะ
โบนัส
. . . . . บริษัทไทย ในยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้ 2-3 เดือนเป็นพื้นฐานค่ะ แต่จำนวนเงินอาจไม่ได้มากเท่ากับโบนัสปีก่อนที่เคยจ่ายมาแล้ว โดยมากได้รับช่วงต้นปีของทุกปี
. . . . . บริษัทญี่ปุ่น โดยรวมแล้วจะมากกว่าบริษัทไทย จากประสบการณ์รวมถึงบุคคลรอบตัวของนักเขียน ได้กันราว 3-6 เดือนค่ะ แม้จะได้หลายเดือนแต่ช่วงหลายปีมานี่จำนวนเงินก็น้อยลงจากปีก่อนๆเช่นกัน บางบริษัทที่ผลประกอบการดีมากถึงแม้เศรษฐกิจแบบนี้ ก็อาจได้โบนัส 7-8 เดือนได้ มีทั้งบริษัทให้เงินโบนัสเริ่มตั้งแต่ต้นปี และบริษัทที่พิจารณาจ่ายกลางปีค่ะ
. . . . . **โบนัสเป็นเพียงน้ำบ่อหน้านะคะ หากใช้ประกอบการตัดสินใจในการเข้าทำงานอาจต้องระวังสักหน่อย
สวัสดิการ
. . . . . สวัสดิการสำหรับคุณแล้วแบบใดจึงเรียกว่าดีบ้างคะ? หากความต้องการของคุณเป็นเพียงแค่ประกันสังคม ลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อน มีครัวหรืออาหารว่างให้ สำหรับเรานั่นเรียกว่าสวัสดิการพื้นฐานของบริษัทที่ควรมีตามกฎหมายค่ะ
บริษัทไทย = สวัสดิการพื้นฐานครบ
. . . . . เป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างนึงค่ะที่บริษัทไทยแท้นั้น ส่วนใหญ่สิ่งที่ให้คุณมีเพียงสวัสดิการพื้นฐานตามที่กฏหมายกำหนดเท่านั้น แต่ถ้าเป็นบริษัทดังๆใจกลางกทม. หรือบริษัทใหญ่ในเขตโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งที่จะมีให้เพิ่มเติมก็มักจะเป็นประกันสุขภาพเอกชน / ประกันอุบัติเหตุเอกชน เพิ่มวันลาป่วยได้มากกว่าปกติ บางที่อาจมีโรงอาหาร อาหารกลางวัน / อาหารเย็นให้ฟรี หรือหากคุณทำงานโรงแรมหรือรีสอร์ทก็อาจได้รับการดูแลเป็นพิเศษในเรื่องอาหารที่พักเช่นกัน
บริษัทญี่ปุ่น = สวัสดิการที่นึกถึงใจเขาใจเรา
. . . . . สำหรับบริษัทญี่ปุ่นในไทยจากประสบการณ์เลย นอกจากสวัสดิการพื้นฐานตามกฏหมายไทยที่ทุกบริษัทควรมีแล้ว สิ่งที่เขาจะให้เพิ่มส่วนใหญ่จะเป็นค่าเดินทางมาทำงานค่ะ (เพราะว่าบริษัทในประเทศญี่ปุ่นให้กันเป็นเรื่องปกติ) ซึ่งจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับที่อยู่และโครงสร้างของบริษัทด้วย สมมติว่าคุณได้ค่าเดินทางเดือนละ 1,500บาท เงินส่วนนี้ก็จะแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างดีเลยค่ะ และต่อมาก็เป็นสิทธิในการเปิด OPD เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชน ซึ่งสิทธิเริ่มแรกจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000บาท/ครั้ง ซึ่งบริษัทไทยก็อาจมีบ้าง แต่บริษัทญี่ปุ่นจะนิยมมีกันมากกว่าเหมือนเป็นสวัสดิการพื้นฐานไปแล้วค่ะ
. . . . . เป็นยังไงบ้างคะ คุณเห็นตรงกับเราหรือเปล่า ทั้งเรื่องวัฒนธรรมองค์กร เงินเดือน เจ้านาย สวัสดิการ ถ้าไม่ตรง คุณเคยเจออะไรที่ต่างออกไปมาเล่าให้ฟังหน่อยนะคะ
. . . . . แล้วคุณล่ะอยากทำงานกับบริษัทไหนมากกว่ากัน
อาหารประจำสัปดาห์
ใคร ๆ ก็เข้าครัวไปกับ I’m JAVDEE วันนี้คือ
คุกกี้สอดไส้ (I am Jadee)
. . . . . 1. แป้งเค้ก260กรัม
. . . . . 2. แป้งข้าวโพด60กรัม
. . . . . 3. ผงฟู1/2ชช
. . . . . 4. เนยเค็ม70กรัม
. . . . . 5. ชอร์ตเทนนิ่งน้ำมันรำข้าว80 กรัม
. . . . . 6. น้ำตาลไอซิ่ง 145 กรัม
. . . . . 7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
. . . . . 8. เกลือ1/4ชช
วิธีทำ
ดูตามคลิปเลยน้าคะ
------------------------------------------------
ติดตาม จาดี ได้ที่
(มีอะไรสอบถาม หรือพูดคุยกับจาดี ได้ทางเฟสบุ๊คนะคะ)
Facebook : https://www.facebook.com/littlesweet.bakery
Instagram : https://www.instagram.com/jadee_little_sweet/
Youtube Little sweet Little channel :
https://www.youtube.com/c/LittleSweetLittleChannel
เคดิต ขอขอบคุณ Little Sweet / Little Channel (I’am จาดี)









